ฟากัล การ์กัสส์ เชมุล เป็นเด็กสาวจากเผ่าพันธุ์ที่เรียกว่าโซออน ซึ่งเคารพต่อเทพแห่งสรรพสัตว์
โซออนแบ่งออกเป็น 12 เผ่า เล็กใหญ่ต่างกัน เผ่าที่เชมุลสังกัดคือหนึ่งในเผ่าที่อาศัยอยู่บริเวณที่ราบทุ่งหญ้าโดยรอบนี้
ทว่า <เผ่าคมเขี้ยว> กลับถูกขับไล่ออกจากที่ราบโดยมนุษย์เมื่อหลายทศวรรษก่อน เวลานี้อาศัยอยู่ในหุบเขาทางทิศเหนือที่สามารถหลบหนีได้อย่างปลอดภัย
เหล่าโซออนล้วนแต่พยายามทวงคืนผืนดินบรรพบุรุษที่ถูกขับไล่ออกมา และมนุษย์ต่างพยายามทำลายโซออนที่หลบหนีเข้าสู่บริเวณหุบเขา ทั้งยังขับไล่พวกที่พยายามบุกโจมตี พวกเขาพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสนามรบรอบพื้นที่บริเวณป้อมนับครั้งไม่ถ้วน
เชมุลเองก็ร่วมต่อสู้ต้านมนุษย์ในฐานะนักรบผู้หนึ่งแม้เป็นเพียงเด็กสาว ทว่ากลับผิดพลาดถูกธนูยิงเข้าที่เท้าในการรบครั้งสุดท้าย นางถูกทหารของทางป้อมปราการจับตัวได้ในทันทีที่สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว
เพียงนึกถึงเหตุการณ์หลังจากนั้น นางก็รู้สึกความเกรี้ยวกราดเหนือล้ำความโกรธใด คล้ายในกระเพาะกำลังเดือดพล่าน
นางตัดสินใจตัดหัวตนเองไปพร้อมเหล่าพี่น้อง ให้ซากศพของนางเปื่อยเน่าสู่ทุ่งหญ้า เป็นอาหารแก่หมาป่า ทว่าชายที่สำคัญที่สุดในป้อมแห่งนี้กลับพรากนางจากพวกเขาผู้ถูกจับตัวไว้เช่นกัน นำนางมาสู่ห้องที่ไร้ผู้คน หยามหมิ่นนางด้วยสายตามากราคะ
นางเคยได้ยินข่าวลือ ในบรรดามนุษย์ ยังมีพวกนิยมกามวิตถาร รู้สึกยินดียามขืนใจพวกต่างเผ่าพันธุ์ ทว่าแม้ในความฝันอันร้ายกาจที่สุดก็มิคาดว่าความปรารถนาดังสัตว์กินเนื้อกระหายเลือดนั้นจะมุ่งมายังนาง
นางไม่เข้าใจระดับความงดงามหรือน่าเกลียดของมนุษย์ ทว่าตัวนางได้รับการยกย่องว่ามีเรือนร่างและขนที่งดงามที่สุดในเผ่า เมื่อคิดว่าตนกลับกลายเป็นเหยื่อเพราะเหตุนั้น นางทำได้เพียงรู้สึกขมขื่นกับร่างของตนเอง
นางยังรู้สึกขยะแขยงมากกว่าหวั่นกลัวยามเขาทาบทับเหนือกายหลังตอกตรึงนางติดเตียง และฉีกกระชากเสื้อผ้านางออกทั้งที่มือนางถูกพันธนาการ
ทว่า เมื่อนางคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น เชมุลรู้สึกอยากระเบิดหัวเราะ
เชมุลเป็นพระบุตรแห่งเทพสรรพสัตว์ผู้ยิ่งใหญ่
ได้รับเลือกเป็นพระบุตรโดยเทพแห่งสรรพสัตว์ เชมุลผู้ทระนงตนร้องขอว่านางต้องการให้เกียรติยศศักดิ์ศรีของนางได้รับการปกป้อง แทนที่การประทานพลังใดยามรับพระพรจากพระองค์
ผลลัพธ์นั้น เชมุลได้รับพระพรที่จะนำความวิบัติหายนะสู่ใครก็ตามที่ทำลายเกียรติยศศักดิ์ศรีนางโดยไร้เหตุผล แลกเปลี่ยนกับการที่นางไม่สามารถกระทำการใดที่เป็นการหลู่เกียรติของตนได้อีก
การปฏิบัติอันไม่เหมาะสมต่อนักรบ
กิริยาแห่งการพยายามขืนใจโซออนผู้ต่างเผ่าพันธุ์
ความอำมหิตแห่งการพยายามแย่งชิงพรรหมจรรย์ของสตรีโดยนางไม่ยินยอม
การกระทำของบุรุษผู้ทำร้ายเกียรติยศสามประกาศในฐานะนักรบ โซออน และสตรีอย่างลึกล้ำ กลับกลายเป็นหายนะอันเลวร้าย ชายผู้นั้นตายลงอย่างทรมาณสาหัสฉกรรจ์ขณะกำลังถอดกางเกงของตน
นางได้ยินเสียงพูดคุยของมนุษย์หลังจากนั้น ชายผู้นั้นคล้ายมาเพื่อเรียกหาผู้บัญชาการสูงสุดในป้อมปราการนี้ คิดถึงขณะสุดท้ายของชายผู้นั้นที่สำรอกเลือดจนตายทั้งที่เผยก้นโสโครกอยู่ครึ่งหนึ่ง ทำให้เชมุลยิ้มหยันเขาอีกครา
แม้สิ่งที่ได้รับนั้นสมควรยิ่ง มนุษย์เหล่านั้นเกรี้ยวกราดเสียจนหน้าแดงก่ำราวกับลิง เนื่องจากนางสังหารบุรุษผู้สำคัญที่สุดในป้อมปราการแห่งนี้ ทว่าก็ยังไม่มีผู้ใดพยายามฆ่าเชมุลเนื่องด้วยกลัวตนจะประสบชะตาดังนั้นเป็นลำดับต่อไปถัดจากผู้บัญชาการ
ในความเป็นจริงแล้ว การพ่ายแพ้ในสงครามและถูกฆ่ามิได้เป็นการหยามหมิ่นศักดิ์ศรีของเชมุล ทว่ามนุษย์ไม่มีทางทราบเรื่องนั้น และเชมุลก็ไม่คิดจะบอกพวกมันเช่นกัน
พวกมนุษย์ ที่ประสบปัญหาในการจัดการนางย่อมทำอะไรไม่ได้นอกจากขังนางไว้ในคุกใต้ดิน
เหมือนจะผ่านไปประมาณยี่สิบวันแล้วกระมัง? ดูท่ามนุษย์คงพยายามอดอาหารนางจนตาย ช่วงไม่กี่วันหลังนี้ไม่มีทั้งอาหารและน้ำมาส่งให้ ทว่าต่างจากมนุษย์ผู้อ่อนแอ โซออนสามารถต้านทานความอดอยากได้ ทว่าเช่นเดียวกัน อีกไม่นานคงถึงขีดจำกัดแล้ว
นางไม่อาจตายท่ามกลางสนามรบ ทว่าได้สังหารบุคคลสำคัญของป้อมนี้ลงด้วยบทลงทัณฑ์ คิดว่าแค่นั้นก็ไม่เลวแล้ว
ในวันหนึ่ง ยามที่นางกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องเหล่านี้
มีคนมายังห้องคุกใต้ดินที่นางถูกคุมขังไว้ยาวนาน ฟังจากเสียงฝีเท้าแล้วมีสองคน เหมือนพวกมันกำลังลากอะไรสักอย่างอยู่
หูของเชมุลชี้ขึ้น คนเหล่านั้นเริ่มยกไม้ขัดกั้นประตูของหลุมที่นางอยู่ออก
หรือพวกมันมาฆ่านาง เพราะไม่อดตายเสียที?
เชื่อดังนั้น เชมุลแสยะยิ้มกว้าง
ไม่ว่าจะอดอาหารอย่างไร นางก็ยังมีพละกำลังมากพอให้จู่โจมอย่างไม่คาดฝัน กระโดดใส่พวกมัน กัดกระชากคอมันให้ขาด พวกมันใจดีถึงขั้นส่งคนมาช่วยเหลือให้นางตายเชียวมิใช่หรือ? เชมุลหัวเราะในใจ
ทว่า ผิดคาดของเชมุล ทหารเหล่านั้นไม่ได้พยายามจะสังหารนาง และทำเพียงโยนร่างของเด็กมนุษย์ลงมาในหลุม
“ฆ่าโซออนนั่นเสีย! หากเจ้าทำ เจ้าจะได้รับอาหาร!”
เชมุลกัดฟันแน่นอย่างหงุดหงิดใจต่อเหล่าทหารที่ตะโกนเช่นนั้น
แค่มองก็รู้ เจ้าเด็กที่ร่วงลงมานี่ไม่อาจต่อสู้ ดูจากรูปร่างบอบบางนั่นก็รู้ว่าไม่มีปัญญายกดาบ สวมชุดเกราะ หรือวิ่งในสนามรบได้แน่ ตรงข้าม มันติดโรคระบาดหรือไม่? ไม่ใช่ว่ากระทั่งยืนเองยังทำไม่ได้หรอกหรือ?
“ฆ่ามัน! ฆ่าโซออนนั่นเสีย!”
ทหารตะโกนเช่นนั้นแล้วก็ออกจากชั้นใต้ดินไป เหลือเพียงเชมุลกับเด็กผู้นั้น
เด็กมนุษย์ขยับตัวยืดยาด คล้ายไม่แม้แต่จะสังเกตเห็นการดำรงอยู่ของเชมุล
นั่นทำให้เชมุลยิ่งรู้สึกเกรี้ยวกราดกว่าเดิม
ผู้สังหารนาง ผู้ได้รับการสรรเสริญเป็น ‘เขี้ยวสูงศักดิ์’ กลับเป็นเด็กโง่เง่างั้นรึ?!
เนื่องด้วยความเกรี้ยวกราด เสียงขู่ต่ำลอยออกมาจากปากนาง
นั่นทำให้เด็กมนุษย์ผู้นั้นสังเกตเห็นนาง กระโดดถอยกลับไปชนกำแพงอย่างตกใจจนน่าสมเพช หอกในสองมือของมันพุ่งมายังนาง
ไร้ทักษะโดยสิ้นเชิง หากเป็นที่หมู่บ้านของโซออน กระทั่งเด็กน้อยก็ยังทิ่มแทงหอกได้ดีกว่าเด็กมนุษย์นั่น
“ฆ่าข้าหรือ? เจ้ามนุษย์น่าขยะแขยง!”
นางแยกเขี้ยวข่มขู่เด็กผู้นั้น ความกราดเกรี้ยวทะลักล้นเสียจนเจ้าคนขี้ขลาดตัวสั่นสะท้าน
“เจ้ามนุษย์โสโครก! เข้ามาสังหารข้าสิ! ข้าจะกัดกระชากคอเจ้า!”
นางเกลียดตรวนเหล่านี้ ที่ตรึงสองแขน โซ่เหล่านี้ ที่ล่ามนางติดกำแพงทั้งยังเชื่อมติดตรวนข้อมือ หากไร้ซึ่งสิ่งเหล่านี้ นางย่อมสังหารเจ้าเด็กบัดซบนั่นในพริบตา!
หลังจากนั้นนางจะรอดออกไป พังประตูนั่นและดื่มเลือดเนื้อของมนุษย์เหล่านั้น! นางต้องรอดชีวิต รอดชีวิตแล้วแก้แค้นเหล่ามนุษย์ที่หยามหมิ่นนางเช่นนี้!
เชมุลกล้ำกลืนความโกรธที่ประทุดั่งลาวา ทว่าเด็กมนุษย์ผู้นั้นกลับทำในสิ่งที่คาดไม่ถึง
ไม่รู้ด้วยเหตุใด มันละทิ้งหอกที่ควรหันคมใส่เชมุล
ดังคาด กระทั่งเชมุลก็ตกตะลึงไป
เจ้าหมอนี่คิดบ้าอะไรอยู่?
มันไม่มีทางคิดว่าตัวมันจะสังหารนางได้ด้วยมือเปล่าใช่หรือไม่?
ขณะนางคิดสงสัย เด็กมนุษย์ก็กางแขนสองข้างที่ว่างเปล่าออกให้นางเห็น
“ไ̵ม̶̷่เ̷ป̵็̸น̶ไ̸ร̴ ̵ผ̶ม̸ไ̵ม̷̸่ท̶ำ̴อ̵ะ̴ไ̴ร̵ค̵̵ุณ̵ห̸ร̵อ̷ก̸”
สิ่งที่ออกมาจากปากเด็กนั่น คือถ้อยคำที่นางไม่เคยได้ยินมาก่อน
ไร้ความหมาย หรือเป็นคำร่ายเวทมนตร์เหมือนที่ปรากฏในนิทานกัน!?
เข้าใจล่ะ เช่นนั้นมันจึงทิ้งหอก! มันกล่าวว่าจะฆ่านางด้วยเวทมนตร์!
เชมุลแยกเขี้ยว ตั้งท่าเตรียมรับมือไม่ว่าในมือเด็กนั่นจะมีสายฟ้าหรือไฟลอยออกมา
ทว่าไม่ว่าจะรอคอยนานเท่าใด ก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
เด็กมนุษย์เอนกายพิงผนังเบื้องหน้าเชมุลที่ผิดหวัง และเริ่มแทะเล็มขนมปังที่ทหารสองนายโยนลงมา
เชมุลสับสนยิ่ง
ไอ้เด็กนี่เป็นใครกันแน่? ทำไมมันถึงได้ใจเย็นทานอาหารต่อหน้านางได้โดยไม่เกรงกลัว? หรือจะเป็นกับดักล่อให้นางลดการป้องกันลง?
อย่ามาล้อเล่นนะ! ละเลยเพียงนั้นกับผีเถอะ! หากเขาเคลื่อนไหวผิดปกติแม้แต่น้อย ต่อให้เป็นเพียงปลายนิ้ว นางก็เห็นได้ทันที!
ขณะคิดเช่นนั้น นางก็มองเด็กมนุษย์ไปด้วย ทว่าสายตากลับไหลไปตามขนมปังที่มันกำลังเคี้ยวอยู่เสียได้
ขนมปังนั่นต้องแข็งมากทั้งไม่อร่อย หากได้ทานขนมปังนั่น รสชาติต้องแย่มากแน่ ไม่คิดเลยว่านางจะอยากทานขนมปังนั่นได้ ทว่านางไม่ได้ทานอาหารมากี่วันแล้วนะ ไม่ ไม่ นางไม่อยากทานขนมปังแบบนั้น!
ขณะคิดไป ดวงตาก็มองตามขนมปังที่เด็กมนุษย์นั่นขยับเสียทุกที
มันโยนขนมปังไปมาในมือ
หืม? ไม่ทานแล้วหรือ
มันขยับขนมปังเข้าปากอีกครา
เจ้าบ้า เจ้าจะทานอีกแล้วรึ?
ดวงตาทั้งคู่สบประสาน
อย่ามองทางนี้นะ!
นางรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวกับสายตาลังเลที่เด็กนั่นมองมา จึงข่มขู่เขาด้วยเขี้ยวของนางอีกครั้ง
พอทำเช่นนี้แล้ว เด็กมนุษย์ก็มองขนมปังในมือ ดูกังวลเพราะอะไรบางอย่าง มันเผยรอยยิ้มอ่อน ทำสีหน้าจริงจัง ทำสีหน้าโศกเศร้า สีหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงไปมาอย่างรวดเร็ว
ยามนี้มันทำหน้าคล้ายตัดสินใจอะไรได้ และมันยื่นมือขวาที่ถือขนมปังมาทางนี้
เกิดอะไรขึ้น? เจ้าตั้งใจจะทำอะไรกัน?
“̵เ̵จ̴̷้า̶น̸ี̵̴่น̶̸่ะ̵ ̸อ̵ย̴า̴ก̶ท̶า̶น̴เ̸ห̷ร̶อ̸?̶”̵
เหมือนก่อนหน้า มันพูดถ้อยคำที่ไร้ความหมาย
ทว่า ครู่ต่อมานางก็เข้าใจความตั้งใจของเด็กมนุษย์ผู้นั้น
เจ้าเด็กนี่พยายามจะมอบขนมปังให้นางหรือ?
ความรู้สึกอุ่นร้อนแห่งความอับอายปรากฏขึ้นในอกเชมุล
ตัวนาง ผู้ถูกเรียกว่า ‘เขี้ยวสูงศักดิ์’ ถูกเจ้าเด็กอ่อนแอนี่สมเพชหรือ? นางไม่ใช่ตัวตลก! อย่ามาล้อเล่นกับนางนะ!
“อย่าเข้ามาใกล้ข้า! เจ้าสัตว์ประหลาดน่ารังเกียจ!”
ยามนางตะคอกอย่างกราดเกรี้ยว สีหน้าเด็กมนุษย์นั่นกลับดูเศร้าหมองลง
เด็กมนุษย์ยอมแพ้ที่จะยื่นของให้เชมุลด้วยตนเองและโยนมาขนมปังมาให้แทน มันหันไปยังจุดกึ่งกลางของหลุม ใกล้กับเชมุล จากนั้นทำเช่นเดียวกันกับถุงหนังใส่น้ำ มันโยนของมาให้นาง จากนั้นหันหลังให้นาง และนอนขดตัวชิดผนัง
นางยังระแวดระวังเกรงว่ามันจะลอบแทงนางด้วยหอกในยามที่นางก้มเก็บขนมปังและถุงหนังหรือไม่ ทว่าเพียงไม่นานก็ต้องงงงันไปเมื่อได้ยินเสียงลมหายใจของเด็กมนุษย์ที่หลับไหลไป นางรอคอย เฝ้ามองว่ามันหลับจริงหรือไม่ ทว่าดูคล้ายว่ามันจะหลับแล้วจริงๆ
ไอ้หมอนี่มันอะไรกัน?
ต่อมา เชมุลรู้สึกสงสัยเจ้าเด็กมนุษย์ที่หลับลึกไปแล้ว
แม้จะเป็นระยะที่ไปไม่ถึง ทว่ามันกลับหลับไปเช่นนั้นต่อหน้าโซออนที่เกลียดชังมนุษย์! อย่างน้อยหลับไปโดยถือหอกไว้ก็ยังดี แต่มันกลับกระทั่งลืมไปแล้วว่ายังมีหอกอยู่ใช่หรือไม่? หอกถูกวางทิ้งขว้างไปแล้ว
และ ไม่นับเรื่องนั้น ที่ไม่เข้าใจมันแม้แต่น้อย คือเรื่องที่มันอุตส่าห์แบ่งสรรอาหารอันน้อยนิดกับโซออน ไม่เข้าใจเลยจริงๆ! เจ้าเด็กนี่ต้องอ่อนโยนแค่ไหนกัน?
ในโลกนี้การฆ่าฟันและขายครอบครัวตนเองเพื่อขนมปังก้อนหนึ่งหรือเหรียญทองแดงเหรียญหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นโลกที่สิ้นหวังยากเอาตัวรอดหากไม่ทำเช่นนั้น ไม่ต้องพูดถึงนางที่เป็นโซออน ศัตรูของมนุษย์ เหตุใดมันจึงลังเลที่จะสังหารนางเล่า?
กระทั่งทหารเหล่านั้นบอกมันว่าจะได้รับอาหารหากสังหารนาง มันก็ยังไม่มีทีท่าพยายามฆ่านางแม้แต่น้อย คล้ายว่าไม่เข้าใจภาษา แต่หากมันดูทีท่าของทหารเหล่านั้นก็ควรเข้าใจว่ากำลังกล่าวบางสิ่งไม่ใช่หรือ?
ถึงยังงั้นก็เถอะ! เจ้าเด็กบ้านี่อยากตายรึไง? มันไม่มีความอยากเอาชีวิตรอดเลยรึไง?
เชมุลอยากกรีดร้อง รู้สึกเหมือนตัวเองงี่เง่าจนโง่ไปแล้ว
“̴ค̷̸ุณ̸พ̶̷่อ̵ ̴ค̷̴ุณ̶แ̷ม̶̴่…̵”
ทันใดนั้น เสียงของเด็กมนุษย์ก็แว่วมา
ทว่าดูไปแล้วเป็นเพียงการนอนละเมอเท่านั้น เสียงลมหายใจยังคงเป็นเช่นคนนอนหลับ
เชมุลคลายไหล่ที่ตึงเครียดลง ถอยกายห่างจากเจ้ามนุษย์ที่นอนละเมอ เชมุลที่ตอนนี้รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโง่ๆ ยังไงพิกลเหยียดแขนออกไปหยิบขนมปังและถุงหนัง
ดังคาด ขนมปังทั้งแข็งทั้งเหนียว ไม่ใช่สิ่งที่ทานได้เลยแม้แต่น้อย น้ำเน่าเหม็น คล้ายน้ำเหนียวๆ เหม็นเน่า
ทว่าเนื่องจากนางมิได้ทานอะไรมานานแล้ว มันจึงอร่อยมากทีเดียว
Author Notes:
สำหรับภาษาแปลกๆ ที่ปรากฏในเรื่อง จะขออธิบายคร่าวๆ ถึงคำว่า “Genobanda” ที่เชมุลพูด เนื่องจากเป็นคำที่อาจทำให้สับสนอยู่บ้าง เพราะสามารถแปลออกมาได้เป็นทั้งคำว่า “มนุษย์น่าขยะแขยง” และ “สัตว์ประหลาดน่ารังเกียจ” ขึ้นกับสถานการณ์
Genobanda - จีโนบันดา เป็นสัตว์ประหลาดรูปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัวที่อาศัยอยู่เบื้องลึกสุดของนรก ซึ่งปรากฏว่าเป็นหนึ่งในตำนานของโลกแห่งนี้
ถ้าแปลประโยค “genobanda hyumuiha,” ตรงๆ จะแปลออกมาได้ว่า “มนุษย์คือ genobanda”
ถ้าแปลประโยค “genobanda noiha,” ตรงๆ จะแปลออกมาได้ว่า “เจ้าคือ genobanda”
แต่เนื่องจากการแปลตรงตัวนั้นเข้าใจยาก ผู้เขียนจึงแปลออกมาได้หลากหลายดังนั้นจึงเป็นได้ทั้ง
“มนุษย์น่าขยะแขยง”
“(เจ้าคือ) สัตว์ประหลาดน่ารังเกียจ”
ผู้เขียนได้เปลี่ยนถ้อยคำดังกล่าวเป็นประโยคข้างต้น
อืม จริงๆ ก็แค่เล่นสนุกเท่านั้นแหละ
0 ความคิดเห็น